อาร์เซนอลปาดหน้าไก่คว้า “เอเบเรชี เอเซ่” ร่วมทีม เปิดมิติใหม่เกมรุกปืนใหญ่

การคว้าตัว เอเบเรชี เอเซ่ มิดฟิลด์ตัวรุกทีมชาติอังกฤษจากคริสตัล พาเลซ กลายเป็นดีลที่สร้างความตื่นเต้นที่สุดของตลาดซัมเมอร์นี้ให้กับแฟนบอลอาร์เซนอล
หลังทุ่มเสริมทัพไปแล้วราว 190 ล้านปอนด์กับนักเตะ 6 ราย รวมถึง วิคตอร์ เยอเกเรส (64 ล้านปอนด์) และ มาร์ติน ซูบิเมนดี้ (60 ล้านปอนด์) แต่การได้เอเซ่ถือเป็นชัยชนะสำคัญเหนือคู่แข่งร่วมกรุงลอนดอนอย่างท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์
อาร์เซนอลชิงจังหวะ
ก่อนหน้านี้ สเปอร์สตกลงเงื่อนไขกับทั้งพาเลซและเอเซ่ได้แล้ว แต่ดีลยังไม่ปิดเพราะพาเลซต้องการเก็บแข้งสำคัญไว้ลงเล่นเกมยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก เพลย์ออฟกับเฟรดริกสตัด ขณะที่ฝั่งอาร์เซนอลเจอข่าวร้าย ไค ฮาแวร์ตซ์ บาดเจ็บเข่าในเกมพบแมนฯ ยูไนเต็ด ทำให้ มิเกล อาร์เตต้า ตัดสินใจเร่งเดินเครื่องปิดดีลทันที
เอเซ่ซึ่งเคยเป็นเด็กฝึกหัดในอะคาเดมีอาร์เซนอลและเป็นแฟนปืนใหญ่มาตั้งแต่เด็ก ไม่ลังเลที่จะตอบรับข้อเสนอ โดยดีลถูกเปิดเผยในคืนวันพุธ และการปฏิเสธสเปอร์สเพื่อเลือกทีมรักยิ่งทำให้เขาได้รับใจแฟนบอลตั้งแต่ยังไม่เปิดตัว
เอเซ่จะเล่นตรงไหน?
แม้ตำแหน่งเบอร์ 10 จะมี มาร์ติน โอเดการ์ด ยึดตัวจริง แต่เอเซ่สามารถเพิ่มมิติให้เกมรุกได้หลายรูปแบบ โดยเฉพาะตำแหน่งริมเส้นฝั่งซ้ายที่ กาเบรียล มาร์ติเนลลี ฟอร์มไม่สม่ำเสมอในซีซั่นก่อน จุดเด่นของเอเซ่คือการเลี้ยงกินตัว, การเชื่อมเกมในพื้นที่แคบ และการผ่านบอลเปลี่ยนจังหวะเกม ซึ่งเข้ากับระบบใหม่ของอาร์เซนอลที่ต้องการเคลื่อนบอลเร็วขึ้น
นักวิเคราะห์เชื่อว่า เอเซ่จะถูกใช้บ่อยในบทบาทปีกซ้ายที่สามารถขยับเข้ามาตรงกลาง เพื่อเสริมความยืดหยุ่นและเพิ่มตัวเลือกให้ทีม โดยในบางแมตช์อาจได้เล่นคู่กับโอเดการ์ดในบทบาทสองเพลย์เมกเกอร์ พร้อมกับวิคตอร์ เยอเกเรส ยืนหน้าเป้า
แฟนบอลปลื้ม ปัดไก่มาเลือกปืน
เอเซ่สร้างชื่อกับพาเลซด้วยผลงาน 40 ประตู 28 แอสซิสต์ จาก 169 นัด รวมถึงลูกยิงพาทีมคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ เหนือแมนฯ ซิตี้ ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เขาได้รับความรักอย่างมากจากแฟนพาเลซ และการย้ายทีมครั้งนี้แทบไม่มีเสียงวิจารณ์ด้านลบ เพราะทุกคนต่างยกย่องในผลงานที่เจ้าตัวมอบให้สโมสร
สำหรับแฟนปืนใหญ่ เอเซ่ยิ่งได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นเพราะเลือกปฏิเสธสเปอร์สเพื่อกลับมาอยู่กับทีมที่ตัวเองผูกพันตั้งแต่วัยเด็ก และมีโอกาสเดินรอยตามตำนานอย่าง เอียน ไรท์ อดีตฮีโร่ของทั้งพาเลซและอาร์เซนอล
นี่คือการเสริมทัพที่ไม่เพียงเพิ่มคุณภาพให้ทีม แต่ยังเติมเต็มจิตวิญญาณและความเชื่อมั่นให้แฟนบอลอาร์เซนอลในฤดูกาลที่พวกเขาหวังลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกเต็มตัว.

